สุขภาพจิตเรื่องใหญ่: ความวิตกกังวลของคนเลี้ยงสัตว์

ในขณะที่การเลี้ยงสัตว์นั้นนำพามาซึ่งเรื่องราวดี ๆ ในชีวิต รอยยิ้มที่เติมแต่งบนใบหน้าในทุก ๆ วัน และรางวัลที่ได้มาจากการเห็นเจ้าน้องขนฟูมีความสุข แต่เชื่อหรือไม่ว่าคุณพ่อคุณแม่สัตว์เลี้ยงหลาย ๆ คนนั้นประสบปัญหาที่น่าหนักใจอย่างความวิตกกังวลและความเครียดที่มาจากการเลี้ยงน้อง ๆ เหล่านี้

อ้างอิงจากงานวิจัย* ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Veterinary Record ทีมนักวิจัยได้ทำการสำรวจคุณพ่อคุณแม่น้องหมาแมวจำนวน 238 คน โดยครึ่งหนึ่งเลี้ยงสัตว์ที่สุขภาพดี ในขณะที่อีกครึ่งมีอาการป่วยเรื้อรังหรืออาการป่วยระยะสุดท้าย โดยกลุ่มคนที่เลี้ยงสัตว์ที่ป่วยนั้นมีแนวโน้มที่จะประสบกับภาวะเหนื่อยล้าของผู้ดูแล (Caregiver Burden) สูงกว่าอีกกลุ่มอย่างมีนัยยะสำคัญ ทำให้เกิดความเครียดสูง มีอาการวิตกกังวล มีอาการของโรคซึมเศร้า และมีคุณภาพชีวิตที่ต่ำกว่าคนที่เลี้ยงสัตว์ที่สุขภาพดี คล้ายกันกับคนที่มีภาวะเหนื่อยล้าของผู้ดูแลจากการดูแลผู้ป่วยที่ต้องพึ่งพาผู้ดูแลตลอดเวลา

นั่นหมายความว่าความเป็นอยู่ของเหล่าสัตว์เลี้ยงของเรานั้นอาจมีความสำคัญต่อใจราวกับเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเลยก็ว่าได้

*หมายเหตุ: งานวิจัยชิ้นนี้มีกลุ่มตัวอย่างไม่มาก และคนที่เลี้ยงสัตว์ที่สุขภาพไม่ดีนั้นอาจเป็นตัวแทนของคนที่ “เลือก” ที่จะเลี้ยงสัตว์ป่วยต่อไป จึงต้องการงานวิจัยเพิ่มเติมเพื่อยืนยันผลลัพธ์ที่หนักแน่นมากขึ้นในอนาคต

หากเป็นอย่างนั้นแล้วจะมีอะไรที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คน ไม่ว่าจะมีสัตว์เลี้ยงที่ป่วยหรือสุขภาพดี ได้หลุดพ้นจากการตกลงสู่หลุมบ่อแห่งสภาพจิตใจที่เศร้าก็ไม่เศร้า จะสุขก็ทำได้ไม่เต็มที่ได้บ้าง?

ในหลาย ๆ ครั้ง ความเป็นห่วงและความวิตกกังวลของคุณพ่อคุณแม่นั้นเกิดจากสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงด้วยซ้ำ แต่เกิดจากความคิดของตัวเองที่กลัวว่าเจ้าน้องของเราอาจจะทำอย่างนั้นอย่างนี้

  • ถ้าปล่อยทิ้งไว้บ้านแล้วไปกินอะไรมั่วซั่วเข้าล่ะ?
  • ถ้าหลุดออกมาแล้วหายไปจะทำยังไง?
  • ถ้าเป็นอะไรขึ้นมาแล้วจะรักษาได้มั้ย?
  • ถ้าไม่มีเงินรักษาจะไปขอความช่วยเหลือจากใครได้?

คำถามตั้งต้นด้วย “ถ้า…” เหล่านี้คงเคยเกิดขึ้นมาในความคิดของคุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คนและทำให้ปวดหัวจนพาให้จิตใจห่อเหี่ยวไปหมด แต่หากมองดูดี ๆ แล้วจะค้นพบว่าต้นเหตุของทุก “ถ้า…” มาจากความไม่แน่นอนในสถานการณ์ต่าง ๆ รอบ ๆ ตัวสัตว์เลี้ยงและคุณพ่อคุณแม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเป็นอยู่ สุขภาพ และการเงิน หากเรารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างหรือรู้ว่าจะรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ยังไง เราก็จะคลายความกังวลใจได้นั่นเอง ✅

ความเป็นอยู่ของสัตว์เลี้ยง เป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอันดับต้น ๆ ในการเลี้ยงสัตว์ เพราะไม่ว่าสิ่งมีชีวิตใดก็ย่อมต้องการสภาพแวดล้อมที่อบอุ่น ปลอดภัย และสนับสนุนคุณภาพชีวิตทั้งนั้น การดูแลบ้านให้ปลอดภัยสำหรับสัตว์เลี้ยง (Pet-proofing) และดูแลความสะอาดในบริเวณบ้าน เก็บอุปกรณ์สารเคมี ของมีคม ต้นไม้ที่มีพิษ​ หรืออาหารที่มีพิษให้ห่างจากเหล่าสัตว์เลี้ยง ก็จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้รู้สึกโล่งใจลงได้บ้าง เมื่อเจ้าน้องอยู่นอกสายตาของคุณพ่อคุณแม่

หากบ้านไหนที่เลี้ยงแบบเปิด การฉีดวัคซีน ทำหมัน และฝังไมโครชิปพร้อมป้ายชื่อห้อยคอก็เป็นสิ่งที่จำเป็น หรืออาจจะติดแท็กสำหรับติดตามตำแหน่งของเจ้าน้องเวลาออกนอกบ้านไปก็จะช่วยให้สบายใจขึ้นได้อีกเช่นกัน

สุขภาพของสัตว์เลี้ยง เป็นหนึ่งในสิ่งที่พวกเราชาวเพ็ทเลิฟเวอร์นั้นเป็นห่วงมากที่สุด โดยเฉพาะกับสัตว์เลี้ยงที่มีอาการเรื้อรัง หรือเคยมีอาการของโรคใด ๆ มาก่อนอยู่แล้ว รวมถึงเรื่องของอุบัติเหตุที่ไม่มีรู้ล่วงหน้า

ในหลาย ๆ ครั้ง การดูแลเรื่องสุขภาพโดยทั่ว ๆ ไปอย่างการรักษาความสะอาด สุขอนามัย และพาไปพบคุณหมอเพื่อตรวจสุขภาพตามเวลานัดนั้นก็อาจจะเพียงพอต่อการดูแลสัตว์เลี้ยงแล้ว เพราะจะมีการตรวจสุขภาพหลายอย่างที่จะช่วยให้เรารู้แนวโน้มในการเจ็บป่วย หรืออาการของน้อง ๆ แต่เนิ่น ๆ พร้อมทั้งได้รับการรักษา หรือคำแนะนำจากคุณหมอสัตวแพทย์อย่างทันท่วงทีนั่นเอง

หากคุณพ่อคุณแม่พาเจ้าน้องไปตรวจสุขภาพ ฉีดวัคซีน ถ่ายพยาธิ อาบน้ำตัดขนตามตารางเวลา พร้อมกินอาหารที่ดี ออกกำลังกายอย่างเพียงพอแล้วล่ะก็ ขอให้สบายใจไว้ก่อนว่าเราได้ทำทุกอย่างด้วยความรักและใส่ใจน้อง ๆ ที่สุดแล้ว หากมีโรคหรืออุบัติเหตุใด ๆ ที่เกิดขึ้นนั้นก็ไม่ได้เป็นเพราะความละเลยใด ๆ อีกทั้งยังเป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้อีกด้วย เมื่อไหร่ที่ความห่วงใยของเราสั่งสมกลายเป็นความเครียดแล้ว สุขภาพจิตของทั้งคุณพ่อคุณแม่และน้อง ๆ ก็จะพากันดิ่งลงไปด้วยกันทั้งคู่นะ!

สถานะทางการเงินของคุณพ่อคุณแม่ แม้จะเป็นสิ่งที่ยากจะยอมรับ แต่เรื่องเงินเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญในการดูแลสัตว์เลี้ยง ซึ่งความหวาดหวั่นใจของคุณพ่อคุณแม่จะเกิดขึ้นในตอนที่เจ้าน้องของเรากำลังเดินอยู่ตรงกลางระหว่างโลกใบนี้และสะพานสายรุ้งสู่ดาวสัตว์เลี้ยง สิ่งที่จะช่วยได้คือการรักษาให้ดีที่สุด แต่ต้องค้นพบว่าไม่สามารถดูแลค่ารักษาได้อีกต่อไป

แม้จะเป็นเรื่องที่น่ากลัว แต่ยังพอมีวิธีช่วยให้คุณพ่อคุณแม่คลายความกังวลลงได้สักเล็กน้อย อย่างการซื้อประกันสัตว์เลี้ยงที่มีความครอบคลุม โดยจะสามารถช่วยบรรเทาความสาหัสของค่ารักษาพยาบาลกับสัตว์เลี้ยงได้ และอาจมีความครอบคลุมในเรื่องอื่น ๆ เพิ่มเติมตามแผนประกันของแต่ละที่ที่แตกต่างกันไปอีกด้วย

นอกเหนือจากเรื่องของค่ารักษาพยาบาลแล้ว การจัดการงบแยกไว้สำหรับสัตว์เลี้ยงให้เหมือนกับค่าใช้จ่ายจำเป็นอื่น ๆ ก็จะช่วยจัดระเบียบเรื่องการเงินของคุณพ่อคุณแม่ได้เช่นเดียวกัน

MyFriend หวังว่าเราจะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คนได้สบายใจมากขึ้นในการดูแลเจ้าน้อง อย่าลืมว่าทุกอย่างที่ยังไม่เกิดขึ้นนั้นล้วนอยู่แต่เพียงในความคิดของเราเท่านั้น สิ่งที่ทำได้ก็มีเพียงการดูแลน้อง ๆ อย่างดีที่สุดในทุก ๆ วัน รวมถึงการปล่อยวางความคิด “ถ้า…” ไปนั่นเอง อยู่กับปัจจุบันให้มาก มองสภาพทุกอย่างตามความเป็นจริง และไม่เติมแต่งอะไรเข้าไปเพิ่มเติมจนพากันสุขภาพจิตและสุขภาพใจย่ำแย่ ทั้งคนและสัตว์เลี้ยง!

อย่างไรก็ดี การพิจารณาสถานการณ์ข้างต้นทั้งหมดนั้นเป็นสิ่งที่ควรทำตั้งแต่ก่อนที่จะรับน้อง ๆ มาเลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ชนิดใดก็ตาม คุณพ่อคุณแม่ควรหาข้อมูลและไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนก่อนที่จะตัดสินใจนำมาเลี้ยงทุกครั้ง ไม่ใช่แต่เพียงเรื่องของสัตว์เลี้ยง สุขภาพ ความเป็นอยู่ และการเงินเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความพร้อมของจิตใจของคุณพ่อคุณแม่เองเช่นเดียวกัน 🤗


🥰 MyFriend’s Parent things! ทุกอย่างที่เกี่ยวกับมนุษย์พ่อแม่ ทั้งไลฟ์สไตล์ วิธีดูแลสัตว์เลี้ยงอย่างถูกต้อง และกิจกรรมสนุก ๆ เรารวมมาไว้ให้ทุกคนที่นี่แล้ว!

🐶🐱 MyFriend แอปของเหล่าสัตว์เลี้ยง ให้คุณพ่อคุณแม่ดูแลเจ้าน้องเพื่อนซี้ได้ดียิ่งขึ้น ด้วยบริการและคอนเทนต์สนุก ๆ มากมาย!

References

Author

Enjoyed the article? Share with a Friend!