แมวชอบแต่เสียงสองของมนุษ์คนโปรดเท่านั้น ไม่เอาคนอื่น!

แมวเป็นสิ่งมีชีวิตที่ตกหัวใจหลายล้านดวงของมนุษย์ไปครอบครองได้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร สังเกตได้จากการศึกษาค้นคว้ามากมายที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมอันน่าหลงใหลและดูจะลึกลับไปบ้างในเวลาเดียวกันของน้องเหมียวที่มีต่อมนุษย์ โดยในงานวิจัยล่าสุดก็ได้มีการค้นพบที่น่าตื่นตาตื่นใจเกี่ยวกับการสื่อสารของสิ่งมีชีวิตต่างสายพันธุ์อย่างแมวและเจ้ามนุษย์คนโปรด!

มีการเปิดเผยว่าแมวไม่ได้แค่สนใจคำพูดของมนุษย์คนโปรดเท่านั้น แต่ยังตอบสนองกลับต่อเสียงที่มีความถี่สูงและเต็มไปด้วยความรัก หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ “เสียงสอง” อีกด้วย แม้หลาย ๆ คนที่ไม่คุ้นเคยกับการทำเสียงแบบนี้อาจจะค้นพบว่ามันชวนขนลุกไปบ้าง แต่หากเจ้าแมวของเราชอบฟัง บางทีลองทำดูก็ไม่เสียหายนะ! ไหน ๆ ก็ไหน ๆ เรามาลองดูคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์เบื้องหลังเสียงสองของเราและเจ้าแมวกันเถอะ!

ประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และแมว 😺❤️🧑

ประวัติศาสตร์แมวเหมียวนั้นสามารถย้อนกลับไปได้ไกลลลลถึง 10,000 ปีเลยทีเดียว! จากแมวป่าแอฟริกันที่ได้ผันตัวมาเป็นแมวบ้านที่เรารู้จักกันในทุกวันนี้ เหล่าแมวทั่วโลกได้ปรับตัวเองให้เข้ากับวัฒนธรรมของมนุษย์ที่หลากหลายมาแล้วทั่วโลก เคยเป็นมาแล้วทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวอียิปต์โบราณเคารพบูชา และยังปรากฏตัวอยู่ในสังคมและปกรณัมนอร์สของชาวสแกนดิเนเวียอีกด้วย โดยในยุคกลางนั้น แมวทำหน้าที่เป็นนักล่าตัวฉกาจที่ช่วยมนุษย์จัดการกับสัตว์รบกวนอย่างพวกหนู ก่อนที่จะผ่านกาลเวลายาวนานจนคุ้นชินกับการใช้ชีวิตเป็นสัตว์เลี้ยงในบ้านที่คอยมอบเสียงเพอร์น่ารัก ๆ และนวดเอาใจมนุษย์ด้วยอุ้งนุ่มนิ่มตลอดมา เมื่อถึงยุคอินเทอร์เน็ต แมวก็กลายเป็นสัตว์เลี้ยงยอดฮิตยิ่งกว่าที่เคย! ด้วยเทรนด์เพ็ทฟลูเอนเซอร์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น ความหลงใหลคลั่งไคล้และความเอ็นดูที่มนุษย์มีให้กับเจ้าน้องก็ยิ่งมีมากขึ้นเรื่อย ๆ !

ถึงแม้พวกเราจะอยู่กับแมวมายาวนานหลายหมื่นปี แต่การสื่อสารระหว่างกันนั้นก็ยังไม่ง่ายดายมากนักเมื่อเทียบกับเพื่อนรักอีกหนึ่งสายพันธุ์อย่างน้องหมา เพราะน้องแมวนั้นใช้ภาษาที่แตกต่างกันในการแสดงออกถึงความต้องการ อารมณ์ และความตั้งใจ ตั้งแต่ภาษากายของเจ้าสัตว์เลี้ยงไปจนถึงเสียงที่ส่งออกมาเพื่อพยายามสื่อสาร มนุษย์อย่างเราควรทำความเข้าใจและถอดรหัสภาษาเหล่านี้ของเหล่าเพื่อนขนฟู เพื่อจะได้พัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างกันได้ดียิ่งขึ้น!

จากการทดลอง 🔬

เหล่านักวิทยาศาสตร์ได้ให้คุณพ่อคุณแม่ของน้องแมวจำนวน 16 ตัวที่มีอายุระหว่าง 8 เดือนถึง 2 ปีมาอัดเสียงพูด เช่น “อยากเล่นมั้ย?” และ “อยากกินขนมมั้ย?” ในสองแบบ คือเป็นเสียงที่สื่อสารกับสัตว์เลี้ยงโดยตรง (เสียงสอง) และในเสียงปกติ รวมถึงมีการอัดเสียงผู้หญิงทั้งหมด 16 คนที่น้องแมวไม่รู้จักให้มาพูดประโยคเดียวกันในสองแบบเช่นกัน

คลิปเสียงต่าง ๆ ดงักล่าวได้ถูกเปิดในบ้านของน้องแมวโดยมีคุณพ่อคุณแม่ของน้องอยู่ด้วย แต่ไม่มีการแสดงออกอะไร จากการทดลองพบว่าแมวนั้นสามารถได้ยินเสียงทั้งหมดห้าเสียง สามเสียงเป็นเสียงพูดปกติ หนึ่งเสียงเป็นเสียงสอง (สื่อสารกับสัตว์โดยตรง) จากคุณพ่อคุณแม่ และอีกหนึ่งเสียงจากคนที่ไม่รู้จัก โดยดูจากปฏิกิริยาที่แมวมีต่อเสียงเหล่านี้ เช่น การขยายของรูม่านตา ใบหูที่ขยับ การหยุดทำกิจกรรมตรงหน้า และความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นหลังจากได้ยินเสียง โดยใช้มาตรวัดเป็นคะแนนจาก 0 ถึง 20

อย่างไรก็ตาม เราอาจต้องทำการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมอีกมากมายเพื่อให้ได้ข้อสรุปที่แน่ชัด เนื่องจากการทดลองดังกล่าวนั้นทำในกลุ่มตัวอย่างที่ค่อนข้างเล็ก อีกทั้งกลุ่มเป้าหมายก็มีความเฉพาะเจาะจงเป็นอย่างมาก เนื่องจากการวิจัยนี้ได้ใช้แมวของเหล่านักศึกษาจาก National Veterinary School แห่งเมืองอัลปอร์ต ประเทศฝรั่งเศส แสดงว่าความสัมพันธ์ระหว่างผู้เลี้ยงและสัตว์เลี้ยงนั้นอาจจะแตกต่างจากคนเลี้ยงแมวอื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งข้อจำกัดที่ว่า ความเหมือนกันระหว่างแมวและเจ้าของนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้การค้นพบเป็นเรื่องที่ยากมากขึ้น

ผลลัพธ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ 📝

จากการทดลองดังกล่าวพบว่า เหล่าเหมียวนั้นมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อเสียงพูดปกติทั้งสามน้อยลง แต่จะมีปฏิกิริยามากขึ้นเมื่อพูดด้วยเสียงที่ใช้สื่อสารกับสัตว์โดยตรง (เสียงสอง) และเมื่อเปิดเสียงพูดปกติก็กลับมาแสดงความสนใจน้อยลงอีกครั้ง

เมื่อเสียงของคนที่ไม่รู้จักเล่นขึ้น เจ้าแมวจะให้ความสนใจน้อยลงทันที แล้วก็ไม่สนใจอยู่อย่างนั้นแม้คนแปลกหน้าดังกล่าวจะพยายามทำเสียงสองก็ตาม

แล้วมันหมายความว่ายังไงสำหรับคุณพ่อคุณแม่น้องเหมียว? 🤔

แม้โลกใบนี้จะมีภาพของเหล่าแมวที่ดูจะชอบเมินเฉยต่อเหล่าทาสไปบ้าง แต่คนที่เลี้ยงแมวนั้นต่างก็รู้ดีที่สุดว่าเจ้านนายของเราเขาขี้ออดขี้อ้อนและน่ารักสุด ๆ ! แม้บางครั้งเจ้าน้องอาจจะนิ่งเงียบเสียจนเราก็ไม่รู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นบ้างหรือเปล่า แตกต่างจากเหล่าหมาที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าตัวเองต้องการอะไร แต่การทดลองในครั้งนี้ก็ทำให้เราได้มองเห็นข้อมูลในแง่มุมหนึ่งที่บอกว่าแมวเหมียวเขาก็ฟังที่เราพูดอยู่บ้างเหมือนกันนะ! โดยเฉพาะเวลาที่มนุษย์คนโปรดหรือคุณพ่อคุณแม่พูดเล่นด้วยเสียงสองยังไงล่ะ!

จากงานวิจัยดังกล่าวพบว่า การพูดเสียงสองกับสัตว์เลี้ยงนั้นเป็นหนึ่งในวิธีการสื่อสารกับสัตว์เลี้ยงที่เหมาะสม และอาจทำให้เจ้าน้องรู้สึกเชื่อมโยงกับมนุษย์อย่างเราได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย

คุณชาร์ล็อต เดอ มูซง (Charlotte de Mouzon) นักเขียนและนักวิจัยทางด้านพฤติกรรมสัตว์ได้กล่าวไว้ว่าแมวนั้น “มีความอ่อนไหวและชอบที่จะสื่อสาร” และ “จากความจริงที่ว่าแมวของเรานั้นมีปฏิกิริยาที่พิเศษต้องวิธีการพูดเสียงสองของเรา ฉันคิดว่าเราน่าจะมีความหมายในโลกพวกเขามากกว่าแค่คนให้อาหารนะ”

การค้นพบในงานวิจัยในครั้งนี้ได้แสดงให้เห็นถึงการตอบสนองในแง่บวกของแมวที่มีต่อเสียงสองของคุณพ่อคุณแม่ เมื่อได้ยินเสียงความถี่สูงที่มีความรักแฝงอยู่ แมวจะแสดงความสนใจและมีอารมณ์ที่ดีมากขึ้น การที่เราเข้าใจวิธีการสื่อสารของแมวนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระหว่างแมวและมนุษย์ อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างความเป็นอยู่ที่ดีของทุกชีวิตอีกด้วย!

การเข้าใจวิธีที่แมวใช้สื่อสารกับเรานั้นสามารถช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่ง ทำให้เราดูแลเจ้าน้องได้อย่างดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังสร้างสภาพแวดล้อมในบ้านที่สงบสุข นอกจากนี้งานวิจัยดังกล่าวยังสนับสนุนให้คุณพ่อคุณแม่น้องเหมียวทุกคนและเหล่านักวิจัยให้ศึกษาให้ลึกลงไปในปฏิกิริยาต่าง ๆ ที่แมวมีต่อมนุษย์ การสำรวจความคิดและทำความเข้าใจกับความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และแมวจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเราและเจ้าสิ่งมีชีวิตที่แสนน่ารักน่าหลงใหลนี้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น!


🍿 MyFriend’s Pop pet แหล่งรวมความสนุกสไตล์คุณพ่อคุณแม่และสัตว์เลี้ยง! ความบันเทิงในรูปแบบเจ้าก้อนจากทั่วทุกมุมโลก ทุกวงการ ไม่มีตกเทรนด์!

🐶🐱 MyFriend แอปของเหล่าสัตว์เลี้ยง ให้คุณพ่อคุณแม่ดูแลเจ้าน้องเพื่อนซี้ได้ดียิ่งขึ้น ด้วยบริการและคอนเทนต์สนุก ๆ มากมาย!

References

Author

Enjoyed the article? Share with a Friend!